TASETO สเปรย์เช็ครอยร้าว น้ำยาเช็ครอยร้าวที่ผิวแนวเชื่อม FR-Q/FP-S/FD-S (420ml.)
➤ รายละเอียด
• ทำให้งานตรวจสอบรอยร้าวเป็นเรื่องง่าย เพราะไม่จำเป็นต้องทำลายชิ้นงาน และเป็นการตรวจจับรอยร้าวที่ให้ความเชื่อถือได้ 100% เป็นที่นิยมใช้แพร่หลายในอุตสาหกรรมงานเชื่อมโลหะและการตรวจจับรอยรั่วคราบน้ำมันในการซ่อมเครื่องจักรหลังการใช้งานเป็นระยะเวลายาวนาน
➤ คุณสมบัติ
• แทรกซึมได้ดีแม้แต่รอยแตกร้าวเล็กๆ
• ตรวจสอบรอยร้าวโดยใช้สารสีแทรกซึมลงบนพื้นผิว
• รอยร้าวที่เปิดและมองไม่เห็นสามารถครอบคลุมได้ง่ายและแม่นยำบนวัสดุทุกพื้นผิวและรูปร่าง (ยกเว้นพื้นผิวที่ถูกทาสีและพลาสติก)
• สามารถใช้งานได้กับโลหะและวัสดุหลากหลายชนิด เช่น เหล็ก (Mild Steel),เหล็กกล้าทนแรงดึงสูง (High tensile steel) , เหล็กกล้าธาตุผสมต่ำ (Low allow steel), สแตนเลส (Stainless Steel) , โลหะผสมนิเกิล (Nickel alloy) , โลหะผสมอลูมิเนียม (Aluminium alloy) , โลหะผสมไททาเนียม (Titanium alloy) , เซรามิค (Ceramic), แก้ว (Glass) , วัสดุเรซิ่นสังเคราะห์ (Synthetic resin) และอื่นๆ
➤ วิธีใช้งาน
• น้ำยาทดสอบรอยร้าวที่ผิวแนวเชื่อม Taseto สามารถตรวจสอบรอยรั่วที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า โดยใช้น้ำยาสีแดงทาผิวหน้าบริเวณที่ต้องการตรวจสอบ จากนั้นล้างคราบสีแดงด้วย cleaner และใช้น้ำยาสีขาวทาทับ ถ้ามีรอยรั่วจะขึ้นสีแดงจากน้ำยาสีแดงมีวิธีการใช้ดังนี้
• ขั้นตอนที่ 1 ฉีดน้ำยาทำความสะอาดผิวงาน cleaning (กระป๋องสีฟ้า) ควรคราบสกปรกประเภทสนิม, คราบน้ำมัน, ผงผ้า ทำความสะอาดพื้นผิวก่อนโดยฉีดน้ำยา cleaner ในระหว่างการทำความสะอาดควรระวังผิวหน้าอุดตันผลดีของการทำความสะอาดผิวหน้าก่อนจะทำให้น้ำยา มีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ขั้นตอนที่ 2 ฉีดน้ำยาแทรกซึม Penetration (กระป๋องสีแดง) หลังจากทำความสะอาดผิวหน้าแล้วควรทำให้แห้งหลังจากนั้นฉีดน้ำยาสีแดงลงบนวัตถุที่ต้องการตรวจจับรอยร้าวโดยให้ห่างจากชิ้นงานประมาณ 20-30 ซม. รอให้น้ำยาซึมซาบประมาณ 2-3 นาที หากต้องการผลที่แน่นอนควรทิ้งไว้ 3-6 นาที วัตถุที่จะทำการตรวจควรอยู่ในอุณหภูมิประมาณ 10-40oc หากใช้น้ำยาบริเวณที่มีอากาศเย็นและอยู่กลางแจ้ง ควรฉีดซ้ำประมาณ 2 ครั้ง
• ขั้นตอนที่ 3 เช็ดทำความสะอาดผิวงาน Cleaning (กระป๋องสีฟ้า) หลังจากฉีดน้ำยาแทรกซึมแล้วล้างคราบสีแดงออก โดยฉีดน้ำยา Cleaning ลงบนผ้า, กระดาษทิชชู หรือล้างด้วยน้ำ (ในกรณีสารเคมีที่สามารถละลายน้ำได้) หากทำความสะอาดผิวหน้าของวัตถุที่ต้องการตรวจสอบไม่หมดจะทำให้ผลการตรวจสอบไม่ดี จึงควรทำความสะอาดผิวหน้าก่อน อย่าใช้น้ำยาทันที
• ขั้นตอนที่ 4 ฉีดน้ำยาเร่งปฏิกริยา Development (กระป๋องสีเทา) ฉีดน้ำยาเร่งปฏิกริยาลงบนผิวงานที่ได้เช็ดคราบน้ำยาสีแดงออกจนหมด การฉีดให้เขย่ากระป๋องสีขาวรอยร้าว จะปรากฏเป็นสีแดง
• ขั้นตอนที่ 5 การตรวจสอบ หลังจากขั้นตอนที่ 4 (Development) พื้นที่ที่ไม่ปรากฏสีแดง หมายถึง ไม่พบตำหนิรอยรั่ว รอยร้าว หากตรวจสอบพบขนาดความลึก,ตำแหน่งของรอยรั่วปรากฏด้วยสีแดงที่ฉีดลงในชิ้นงาน หมายถึงมีรอยร้าวเกิดขึ้น
➤ ประกอบด้วยน้ำยาหลัก 3 ชนิด คือ
1. FR-Q ลงบนผิวเพื่อทำความสะอาด Cleaner/Remover (กระป๋องสีฟ้า)
2. FP-S ลงบนผิวเพื่อให้น้ำยาแทรกซึมลงไปในรอยแตกร้าว Penetrant (กระป๋องสีแดง)
3. FD-S น้ำยาเร่งปฎิกริยา Developer (กระป๋องสีขาว/เทา)